การดื่มน้ำมีประโยชน์ต่อร่างกายมากก็จริง แต่ใช่ว่าการดื่มน้ำเข้าไปทุกครั้งนั้นจะไม่มีโทษเกิดขึ้น วันนี้เรามาทำความเข้าใจกับการดื่มน้ำ ให้ถูกต้องกันดีกว่า
ขั้นแรก ควรดื่มน้ำทุกครั้งที่ร่างกายร้องขอ แต่อย่าพรวดพราดดื่มทีละมากๆ เพราะจะไปเพิ่มภาระให้ระบบขับถ่ายอย่าง ไต, ปอด, ม้าม รวมทั้งระบบย่อยอาหาร ให้ทำงานหนักขึ้นด้วย
ส่วนที่เค้าบอกกันมาว่า ให้ดื่มน้ำวันละ 8 แก้วนั้น รู้มั้ยว่าหมายรวมถึง ปริมาณทั้งหมดของน้ำ ที่เรารับในแต่ละวันไม่ว่าจะเป็นน้ำจากผัก, ผลไม้, น้ำแกง, น้ำก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ ซึ่งทุกน้ำที่ผ่านเข้าร่างกายของเราไปนั้น นับรวมได้หมด ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องดื่มน้ำเปล่ากันให้ครบ 8 แก้วหรอกครับ และหากคุณเป็นคนที่ชอบรับประทานอาหารรสไม่จัดจ้านจนเกินไป คุณก็แทบจะไม่กระหายน้ำเลย แต่หากว่าวันไหนรับประทานอาหารเนื้อสัตว์, ของหวานจัด หรือ อาหารแห้งๆ ทอด, ย่าง, ปิ้งทั้งหลาย ร่างกายก็จะเรียกหาน้ำมากขึ้น ซึ่งทำให้อวัยวะต่างๆ ต้องทำงานหนัก ผลก็คือร่างกายของเราจะทรุดโทรมลงก่อนวัยอันควร
นอกจากนี้อากาศร้อนๆ ของบ้านเรา ทำให้แทบ ทุกคนชอบดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ จนติดเป็นนิสัย ซึ่งทำให้อวัยวะต้องปรับอุณหภูมิน้ำเย็น ที่เราดื่มเข้าไป ให้เท่ากับร่างกายก่อน จึงค่อยนำไปใช้ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอลง เพราะระบบย่อยอาหารต้องทำงานหนัก และอาจมีปัญหาเรื่องการปวดประจำเดือนได้ ดังนั้น น้ำที่เหมาะสมที่สุดในการดื่มจึงเป็นน้ำเปล่าแบบไม่เย็น และนอกจากนี้ควรหมั่นดื่มน้ำอุ่นๆ บ้าง เพื่อช่วยให้ร่างกายของเราขับเหงื่อออกมาได้มากขึ้น
ที่สำคัญอีกอย่างคือ ไม่ควรดื่มน้ำระหว่างรับประทานอาหาร เพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง ระบบย่อยอาหารจะทำงานช้าลง และร่างกายได้รับสารอาหารไม่เต็มที่ แต่เรามีวิธีแก้ไขคือให้จิบน้ำอุ่น หรือชดน้ำซุปแก้ฝืดคอแทน แล้วเคี้ยวอาหารช้าๆ ให้ละเอียดก่อนกลืน ก็จะช่วยลดการกระหายน้ำได้เช่นเดียวกัน
และสุดท้ายหากคุณต้องการดื่มน้ำให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกายจริงๆ ควรดื่มตอนที่เพิ่งลุกจากเตียงหมาดๆ หรือช่วงเวลา 1 ชั่วโมงก่อนทานอาหาร และหลังจากอิ่มแล้วครึ่งชั่วโมง ซึ่งเวลาเหล่านี้แหละที่จะทำให้ “น้ำ” ดีต่อสุขภาพของคุณที่สุด